วิธีการปรุงอาหารด้วย ดี-เอ็ด

(ดูไฟล์ภาพ คู่มือ วิธีการปรุงอาหารด้วยดี-เอ็ด และเมนูอาหาร แอแคลร์, ก๋วยเตี๋ยวลุยสวน, ตะโก้สาคูข้าวโพด, วุ้น)

1. ปริมาณ ดี-เอ็ด ที่ใช้
ดี-เอ็ด หวานกว่าน้ำตาลทรายประมาณ 8 เท่า ขึ้นอยู่กับประเภทอาหารและความชอบของผู้บริโภค
ฉะนั้น เพื่อความสะดวกในใช้ ดี-เอ็ด ทดแทนน้ำตาล จึงควรเริ่มต้นที่ความหวาน 8 เท่า แล้วจึงปรับปริมาณการใช้ตามความชอบ

ดี-เอ็ด ละลายในน้ำได้ดี ทั้งในอาหารร้อนและเย็น เหมาะสำหรับปรุงอาหารคาว อาหารหวาน ขนม หรือเครื่องดื่มทั่วไป
ไม่มีข้อจำกัดวิธีการปรุง ไม่ว่าจะปรุงโดยวิธี ตุ๋น ต้ม ผัด นึ่ง อบ ปึ้ง ทอด หมัก ยำ อุ่นร้อนซ้ำ
จึงใช้ทำอาหารได้หลากหลาย เช่น ผัดผัก บาบีคิว สตู ซุป น้ำจิ้ม น้ำพริก น้ำสลัด เครื่องดื่มสมุนไพร ขนมหวาน ขนมปัง ฯลฯ
สามารถใช้ ดี-เอ็ด ทดแทนน้ำตาลได้ทันที โดยเทียบอัตราส่วน

2. ปริมาณอาหารที่ได้
ที่ความหวานเท่ากัน จะใช้ปริมาณ ดี-เอ็ด น้อยกว่าน้ำตาลประมาณ 8 เท่า
ดังนั้นในอาหารที่มีน้ำตาลอยู่สูง ปริมาตรของน้ำตาลที่หายไป อาจทำให้ได้ปริมาณอาหารปรุงเสร็จแล้วลดลง

3. ขนมหวานจัด
ได้แก่อาหารที่มีน้ำตาลอยู่สูงมาก เช่น ทองหยิบ ทองหยอด ลูกกวาด คาราเมล กาละแม แยม ฯลฯ
โดยน้ำตาลนอกจากให้ความหวานแล้ว ยังให้เนื้ออีกด้วย ควรใช้ ดี-เอ็ดทดแทนประมาณ 25% ของน้ำตาล เช่น

5. อาหารเติมยีสต์
เนื่องจาก ดี-เอ็ดไม่ทำให้ฟันผุ และไม่ถูกย่อยโดยยีสต์
จึงควรเติมน้ำตาลอย่างน้อย 2 ช้อนชาเพื่อให้ยีสต์ทำงาน แล้วเติมความหวานที่เหลือด้วย ดี-เอ็ด

6. สีน้ำตาลเกรียม
อาหารที่มีการเติมน้ำตาล หรือโรยหน้าด้วยน้ำตาล เมื่อโดนความร้อน เช่นจากการอบ น้ำตาลจะละลาย แล้วเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาล เมื่อใช้ ดี-เอ็ด จะไม่เกรียมแบบน้ำตาล
ดังนั้น ในขนมที่ต้องการสีด้านนอกเป็นสีน้ำตาล อาจใช้เนยหรือน้ำมันทาหน้าแป้งขนมก่อนอบ

7. ขนมอบ
ในขนมอบกลุ่มเบเกอรี่ เช่น เค้ก คุกกี้ พาย ฯลฯ น้ำตาลนอกจากให้ความหวาน มักมีหน้าที่ให้ความเหนียวนุ่ม และ/หรืออุ้มความชื้น(moisture)อีกด้วย เมื่อใช้ ดี-เอ็ด เนื้อจะร่วน (flakier) และแห้งขึ้น (drier)
ดังนั้น ในกลุ่มขนมอบเหล่านี้ มักต้องการการปรับสูตรค่อนข้างมาก เพื่อเพิ่มความเหนียวนุ่มและ/หรือความชื้นให้เนื้อขนม
เช่น หากสูตรขนมเดิม มีการใส่เนยและไข่ อาจเพิ่มไข่หรือเนยให้มากขึ้น
หรือหากไม่ต้องการปรับสูตร ท่านสามารถลดปริมาณน้ำตาลลง 25% และทดแทนด้วย ดี-เอ็ด (ย้อนกลับไปดูข้อ3.ขนมหวานจัด)

หมายเหตุ
สำหรับธุรกิจเบเกอรี่ ซึ่งมีการใช้น้ำตาลกึ่งกลางระหว่างผู้ใช้ครัวเรือนและผู้ใช้อุตสาหกรรม และไม่ต้องการปรับปรุงสูตรอาหารที่มีอยู่เดิมมากนัก อาจพิจารณาใช้สูตร Baking คือ